เติมเกม PlayStation

ซื้อเกมและส่วนเสริม PlayStation Store ง่ายกว่าที่คิด

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการซื้อเกมหรือส่วนเสริมต่าง ๆ บน เติมเกม PlayStation นั้นง่ายกว่าที่คิด ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตให้ยุ่งยาก และไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกต่อไป เพราะ PlayStation Store มีตัวเลือกการเติมเงินที่หลากหลายและสะดวกสบาย บทความนี้จะมาแนะนำ วิธี เติมเกม PlayStation Store แบบง่าย ๆ เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกดีลเด็ดและเกมใหม่ล่าสุด

วิธีเติมเงิน PlayStation Store แบบง่าย ๆ

การเติมเงิน PlayStation Store มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณ โดยวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีดังนี้:

1. บัตร PlayStation Network Card (PSN Card)
   PSN Card เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดในการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน PlayStation ของคุณ บัตรนี้มีจำหน่ายทั้งแบบบัตรแข็งตามร้านค้าเกมทั่วไปและแบบรหัสดิจิทัลตามร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ เช่น TrueMoney, Lazada, Shopee หรือร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven

วิธีการเติมเงินด้วย PSN Card:

เข้าสู่ระบบ PlayStation Store บนเครื่อง PlayStation หรือผ่านเว็บไซต์

ไปที่เมนู Redeem Codes

กรอกรหัส 12 หลักที่อยู่บนบัตร PSN Card หรือรหัสที่คุณได้รับจากร้านค้าออนไลน์

กด Redeem เพียงเท่านี้เงินก็จะถูกเติมเข้าบัญชีของคุณทันที

2. บัตรเครดิต/เดบิต
   หากคุณสะดวกใช้บัตรเครดิตหรือเดบิต ก็สามารถผูกบัตรเข้ากับบัญชี PlayStation Network (PSN) ได้โดยตรง วิธีนี้จะช่วยให้คุณซื้อเกมได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมเงินล่วงหน้า

วิธีการเติมเงินด้วยบัตรเครดิต/เดบิต:

เข้าสู่ระบบ PlayStation Store

ไปที่ Payment Methods (วิธีการชำระเงิน)

เลือก Add Credit/Debit Card

กรอกข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตของคุณให้ครบถ้วน

เมื่อต้องการซื้อเกม ระบบจะหักเงินจากบัตรของคุณโดยตรง

3. TrueMoney Wallet
   สำหรับใครที่ใช้ TrueMoney Wallet เป็นประจำ นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวกมาก ๆ คุณสามารถซื้อรหัสเติมเงิน PSN ได้โดยตรงจากแอป TrueMoney Wallet และนำรหัสไปเติมใน PlayStation Store ได้ทันที

วิธีการเติมเงินด้วย TrueMoney Wallet:

เปิดแอป TrueMoney Wallet

ไปที่เมนู PlayStation Network

เลือกจำนวนเงินที่ต้องการซื้อ (เช่น 300, 500 หรือ 1,000 บาท)

ชำระเงินผ่านแอป คุณจะได้รับรหัส 12 หลัก

นำรหัสไปกรอกในเมนู Redeem Codes ของ PlayStation Store

4. PayPal
   PayPal เป็นบริการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก หากคุณมีบัญชี PayPal อยู่แล้วก็สามารถผูกกับบัญชี PSN เพื่อใช้ซื้อเกมและส่วนเสริมต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย

เลือกวิธีเติมเงินที่ใช่ แล้วไปสนุกกับเกมที่ชอบกัน!
ไม่ว่าคุณจะเลือกเติมเงินด้วยวิธีไหน ทุกวิธีที่กล่าวมาล้วนสะดวกและปลอดภัยทั้งสิ้น หลังจากเติมเงินเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถเลือกซื้อเกม, ส่วนเสริม, หรือแม้แต่การสมัครสมาชิก PlayStation Plus เพื่อเข้าถึงสิทธิประโยชน์มากมายบน PlayStation Store ได้ทันที

การเติมเงิน PlayStation Store นั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณก็พร้อมที่จะออกเดินทางสู่โลกแห่งเกมใหม่ ๆ ได้แล้วครับ!

เติมเงิน PlayStation Store ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

สำหรับเกมเมอร์หลายคนที่ชื่นชอบการซื้อเกมและส่วนเสริมต่าง ๆ บน PlayStation Store อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับวิธีการเติมเงินที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด นั่นคือการใช้ PlayStation Network Card หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า PSN Card นั่นเอง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ PSN Card ให้มากขึ้น เพื่อให้คุณเข้าใจว่าคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

ทำความรู้จักกับ PlayStation Network Card (PSN Card) คืออะไร
PlayStation Network Card (PSN Card) คือบัตรเติมเงินชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลในบัญชี PlayStation Network (PSN) ของคุณ โดยมีลักษณะคล้ายกับบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ หรือ Steam Wallet ที่มีรหัสโค้ด 12 หลักอยู่บนบัตร

เมื่อคุณนำรหัสนี้ไปกรอกในระบบของ PlayStation Store มูลค่าของบัตรจะถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าเงินของคุณทันที ทำให้คุณสามารถนำเงินนั้นไปใช้ซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มีอยู่บน PlayStation Store ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น:

เกมเต็มรูปแบบ (Full Games) ทั้งเกมใหม่ล่าสุดและเกมคลาสสิก

ส่วนเสริมของเกม (DLCs/Add-ons)

การสมัครสมาชิก PlayStation Plus เพื่อเล่นเกมออนไลน์และรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ

การซื้อไอเทมในเกม (In-game purchases)

จุดเด่นที่ทำให้ PSN Card ได้รับความนิยม:

ปลอดภัยสูง: ไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต ทำให้หมดกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว

ควบคุมค่าใช้จ่ายได้: คุณสามารถซื้อ PSN Card ในมูลค่าที่ต้องการและเติมเงินตามจำนวนนั้น ทำให้คุณสามารถวางแผนและควบคุมงบประมาณในการเล่นเกมได้ดีขึ้น

สะดวกและหาซื้อง่าย: มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบบัตรแข็งตามร้านค้าเกมชั้นนำ และแบบรหัสดิจิทัลที่สามารถซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์, ร้านสะดวกซื้อ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น TrueMoney Wallet

ข้อควรรู้ก่อนซื้อ PSN Card
สิ่งสำคัญที่คุณต้องทราบก่อนที่จะซื้อ PSN Card คือ “โซน” ของบัตรเติมเงินและบัญชี PSN ของคุณจะต้องตรงกัน

บัญชี PSN (PSN ID) ของแต่ละประเทศจะมีโซนที่แตกต่างกันไป เช่น บัญชีโซนประเทศไทย (TH) จะใช้เงินสกุลบาท (THB)

ดังนั้น หากบัญชี PSN ของคุณเป็นโซนประเทศไทย คุณต้องซื้อ PSN Card โซนไทย เท่านั้น หากซื้อบัตรผิดโซนจะไม่สามารถใช้งานได้

วิธีการตรวจสอบโซนบัญชี PSN ของคุณ:
ง่าย ๆ เพียงแค่ลองดูสกุลเงินที่แสดงใน PlayStation Store หากแสดงเป็น “THB” (บาท) แสดงว่าบัญชีของคุณเป็นโซนไทยนั่นเอง

สรุป
PSN Card เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก, ปลอดภัย และต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าดิจิทัลบน PlayStation Store ทำให้การเข้าถึงเกมและคอนเทนต์ต่าง ๆ บน PlayStation เป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย เพียงแค่เลือกซื้อบัตรให้ตรงกับโซนของบัญชี แล้วไปสนุกกับโลกแห่งเกมที่คุณชื่นชอบได้เลย!

เลือกวิธีเติมเงิน PlayStation Store ที่เหมาะกับคุณ

สำหรับนักเล่นเกม PlayStation การมีเงินใน PlayStation Store อยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อซื้อเกมใหม่, ส่วนเสริม, หรือการสมัครสมาชิก PlayStation Plus ที่สำคัญคือ ช่องทางการเติมเงินในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย และแต่ละวิธีก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน บทความนี้จะมาช่วยคุณเปรียบเทียบช่องทางการเติมเงินยอดนิยม เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่า แบบไหนคุ้มค่าที่สุด สำหรับคุณ

เปรียบเทียบช่องทางการเติมเงิน: แบบไหนคุ้มค่าที่สุด
ช่องทางการเติมเงิน PlayStation Store ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันได้แก่ การใช้ PSN Card, การเติมผ่าน บัตรเครดิต/เดบิต และการเติมผ่าน แอปพลิเคชันต่าง ๆ มาดูกันว่าแต่ละวิธีมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง

1. PlayStation Network Card (PSN Card)
   PSN Card เป็นตัวเลือกที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด หาซื้อได้ง่ายทั้งแบบบัตรแข็งและแบบรหัสดิจิทัล

ข้อดี:

ปลอดภัยสูง: ไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ลดความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมข้อมูล

ควบคุมงบประมาณได้: เติมเงินตามมูลค่าที่ต้องการ ช่วยให้วางแผนค่าใช้จ่ายได้ดี

มีโปรโมชั่น: ผู้ขายบางรายอาจมีโปรโมชั่นส่วนลดหรือแถมแต้มสะสมเมื่อซื้อ PSN Card

ข้อเสีย:

จำกัดมูลค่า: ต้องซื้อตามมูลค่าที่กำหนดไว้ เช่น 300, 500 หรือ 1,000 บาท อาจไม่ตรงกับราคาเกมที่คุณต้องการ

ต้องกรอกรหัส: ขั้นตอนการเติมเงินต้องนำรหัส 12 หลักไปกรอกในระบบด้วยตัวเอง

2. บัตรเครดิต/เดบิต
   เป็นวิธีที่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการซื้อเกม

ข้อดี:

รวดเร็วทันใจ: สามารถซื้อเกมได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินก่อน

ยืดหยุ่น: สามารถซื้อเกมในราคาที่ยืดหยุ่นได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องมูลค่าที่จำกัด

ข้อเสีย:

ความปลอดภัย: มีความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมข้อมูล หากบัญชีถูกแฮ็กหรือข้อมูลบัตรเครดิตรั่วไหล

ควบคุมค่าใช้จ่ายยาก: อาจทำให้ใช้จ่ายเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ได้ง่าย เนื่องจากสามารถซื้อได้ตลอดเวลา

3. แอปพลิเคชันและช่องทางออนไลน์ (เช่น TrueMoney Wallet, ShopeePay)
   เป็นช่องทางที่ผสานความสะดวกของร้านค้าออนไลน์เข้ากับการเติมเงินเกม

ข้อดี:

สะดวกและมีโปรโมชั่น: มักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดหรือเงินคืน (Cashback) เมื่อซื้อรหัสเติมเงิน ทำให้ประหยัดกว่าการซื้อแบบปกติ

สะสมแต้ม/สิทธิพิเศษ: ได้รับคะแนนสะสมหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากแพลตฟอร์มนั้น ๆ

ทำรายการง่าย: สามารถทำรายการได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านมือถือ

ข้อเสีย:

จำกัดช่องทาง: ต้องใช้บริการของแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มที่รองรับเท่านั้น

ต้องมีแอปฯ: ต้องมีบัญชีและติดตั้งแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้งาน

สรุป: ช่องทางไหนเหมาะกับใคร?
PSN Card: เหมาะสำหรับคนที่เน้นความ ปลอดภัย และต้องการ ควบคุมงบประมาณ ในการเล่นเกมเป็นหลัก

บัตรเครดิต/เดบิต: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความ รวดเร็ว ในการซื้อเกมและไม่ต้องการเสียเวลาในการเติมเงิน

แอปพลิเคชัน/ช่องทางออนไลน์: เหมาะสำหรับคนที่มองหา ความคุ้มค่า และ โปรโมชั่น ดี ๆ เพื่อให้ได้เงินในกระเป๋า PlayStation มากขึ้นในราคาที่ถูกลง

โดยรวมแล้ว การเลือกช่องทางการเติมเงินที่คุ้มค่าที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการส่วนบุคคล แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาช่องทางที่ทั้งปลอดภัยและมีโอกาสได้โปรโมชั่นดี ๆ การใช้ PSN Card หรือการซื้อผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ

เติมเงิน PlayStation ไม่เข้าใช่ไหม? มาดูวิธีแก้ไขกัน

การเติมเงินเพื่อซื้อเกมหรือส่วนเสริมบน PlayStation Store เป็นเรื่องปกติของเกมเมอร์ แต่บางครั้งก็อาจเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเติมเงินไม่เข้า, รหัสไม่ถูกต้อง หรือเงินไม่ถูกหัก ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจสร้างความหงุดหงิดใจไม่น้อย บทความนี้ได้รวบรวม ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อเติมเกม PlayStation และวิธีแก้ไข เพื่อให้คุณกลับไปสนุกกับเกมที่ชอบได้อย่างรวดเร็ว

ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อเติมเกม PlayStation และวิธีแก้ไข

1. รหัส PlayStation Network Card (PSN Card) ไม่ถูกต้อง
   ปัญหานี้มักเกิดขึ้นบ่อยที่สุดเมื่อมีการกรอกรหัส 12 หลักผิดพลาด

วิธีแก้ไข:

ตรวจสอบการพิมพ์: ลองตรวจสอบตัวอักษรและตัวเลขที่คุณกรอกใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะตัวอักษรที่คล้ายกัน เช่น O (โอ) กับ 0 (ศูนย์), I (ไอ) กับ l (แอล)

ตรวจสอบโซน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า PSN Card ที่คุณซื้อนั้นตรงกับโซนของบัญชี PlayStation Network (PSN) ของคุณ เช่น บัญชีโซนไทย (TH) ต้องใช้รหัส PSN Card โซนไทยเท่านั้น

ใช้แอปพลิเคชัน: หากเป็นรหัสที่ซื้อผ่านแอปพลิเคชันหรือร้านค้าออนไลน์ ลองคัดลอก (Copy) และวาง (Paste) รหัสแทนการพิมพ์เองเพื่อลดความผิดพลาด

2. เติมเงินด้วยบัตรเครดิต/เดบิตไม่สำเร็จ
   ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งข้อมูลบัตรไม่ถูกต้อง หรือระบบมีปัญหา

วิธีแก้ไข:

ตรวจสอบข้อมูลบัตร: ตรวจสอบหมายเลขบัตร, วันหมดอายุ, และรหัส CVV/CVC (รหัส 3-4 หลักด้านหลังบัตร) ให้ถูกต้อง

ตรวจสอบยอดเงิน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามียอดเงินในบัตรเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่ต้องการ

ติดต่อธนาคาร: หากข้อมูลทุกอย่างถูกต้องแล้วแต่ยังเติมไม่สำเร็จ อาจเป็นเพราะระบบของธนาคารบล็อกการทำรายการ ลองติดต่อธนาคารผู้ออกบัตรเพื่อสอบถามสาเหตุ

ลองช่องทางอื่น: หากยังแก้ไขไม่ได้ ลองใช้ช่องทางการชำระเงินอื่น เช่น PSN Card หรือ PayPal แทน

3. เงินถูกหักแต่เกม/ส่วนเสริมไม่เข้า
   เป็นปัญหาที่น่ากังวลที่สุด แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพียงแค่ความล่าช้าของระบบ

วิธีแก้ไข:

ตรวจสอบ Transaction History: เข้าไปที่ Transaction History หรือ Purchase History ในบัญชี PlayStation Store ของคุณ เพื่อตรวจสอบว่ารายการสั่งซื้อนั้นสำเร็จหรือไม่

ตรวจสอบ Library: หากรายการสำเร็จ ให้เข้าไปที่ Library เพื่อดูว่าเกมหรือส่วนเสริมนั้นปรากฏขึ้นแล้วหรือยัง

รีสตาร์ทเครื่อง: ลองปิดและเปิดเครื่อง PlayStation ใหม่ เพื่อให้ระบบอัปเดตข้อมูล

รอสักครู่: หากตรวจสอบแล้วยังไม่พบ ให้รอประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพราะบางครั้งระบบอาจใช้เวลาประมวลผล

ติดต่อฝ่ายสนับสนุน: หากรอแล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ให้รีบติดต่อ ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ PlayStation (PlayStation Support) โดยเตรียมหลักฐานการชำระเงิน เช่น ใบเสร็จหรือสลิปการโอนเงิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและแก้ไขให้คุณ

เติมเกม PlayStation ง่ายนิดเดียว แค่มีสติ!
การเติมเกม PlayStation ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณทำตามขั้นตอนอย่างรอบคอบและมีสติในการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่ต้องกังวล เพราะปัญหาเหล่านี้มีวิธีแก้ไขเสมอ แค่ทำตามคำแนะนำข้างต้น คุณก็จะสามารถกลับไปสนุกกับเกมโปรดได้โดยไม่มีสะดุดครับ!

วางแผนก่อนเติมเงิน PlayStation เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด
การเติมเงินเพื่อซื้อเกมบน PlayStation Store ไม่ใช่แค่การเติมเงินเข้าไปเฉย ๆ แต่เป็นการวางแผนเพื่อความคุ้มค่าสูงสุดและเพื่อให้การซื้อเกมแต่ละครั้งเป็นไปอย่างราบรื่น บทความนี้จะพาคุณไปดูว่า การเติมเกม PlayStation ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง เพื่อให้คุณใช้จ่ายได้อย่างฉลาดและสนุกกับเกมโปรดได้อย่างเต็มที่

เติมเกม PlayStation ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

ก่อนจะตัดสินใจเติมเงินหรือซื้อเกม มี 4 สิ่งที่คุณควรพิจารณาเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสและไม่เจอปัญหาที่ไม่คาดคิด

1. โซนของบัญชี PlayStation Network (PSN ID)
   นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อ PSN Card หรือเติมเงินด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม บัญชี PSN ของแต่ละประเทศจะมี “โซน” ที่แตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่าบัตรเติมเงินหรือโค้ดต่าง ๆ จะใช้งานได้กับบัญชีที่ตรงกับโซนนั้นเท่านั้น

วิธีตรวจสอบ: เข้าไปที่ PlayStation Store หากสกุลเงินที่แสดงเป็น “THB” (บาท) แสดงว่าบัญชีของคุณเป็นโซนไทย และต้องซื้อ PSN Card โซนไทยเท่านั้น หากซื้อผิดโซนจะไม่สามารถใช้งานได้

2. ช่องทางการเติมเงินที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุด
   ปัจจุบันมีหลายวิธีในการเติมเงิน และแต่ละวิธีก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน

PSN Card: ปลอดภัยที่สุดเพราะไม่ต้องใช้บัตรเครดิต เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมงบประมาณ

บัตรเครดิต/เดบิต: สะดวกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อเกมทันที

แอปพลิเคชันออนไลน์: เช่น TrueMoney, Shopee หรือ Lazada มักมีโปรโมชั่นส่วนลดหรือเงินคืน (Cashback) ที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น

การเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละช่องทางจะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด

3. โปรโมชั่นและส่วนลดใน PlayStation Store
   PlayStation Store มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาเกมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาล, วันหยุด หรือการลดราคาประจำสัปดาห์ การติดตามข่าวสารและวางแผนการซื้อในช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มาก

ติดตามข่าวสาร: กดติดตามโซเชียลมีเดียของ PlayStation หรือเว็บไซต์เกมต่าง ๆ เพื่อไม่พลาดดีลเด็ด

ใช้ Wishlist: เพิ่มเกมที่สนใจใน Wishlist เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อเกมนั้นลดราคา

4. เงินในกระเป๋าเงิน (Wallet) ของคุณ
   บางครั้งคุณอาจเติมเงินเข้าไปแล้วแต่ไม่ได้ใช้ทันที ทำให้เงินคงค้างอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณ เมื่อต้องการซื้อเกมใหม่ ควรตรวจสอบยอดเงินใน Wallet ก่อน เพื่อพิจารณาว่าจะต้องเติมเงินเพิ่มหรือไม่ เติมเกม PS4
   

ตรวจสอบยอดคงเหลือ: เข้าไปที่เมนู Wallet หรือกระเป๋าเงินใน PlayStation Store เพื่อดูว่ามียอดเงินเพียงพอสำหรับเกมที่ต้องการหรือไม่ เติมเกม Xbox

สรุป
การเติมเกม PlayStation ไม่ใช่แค่เรื่องของการจ่ายเงิน แต่คือการวางแผนอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การตรวจสอบโซนบัญชี, การเลือกช่องทางการเติมเงินที่เหมาะสม, การรอซื้อช่วงโปรโมชั่น ไปจนถึงการบริหารยอดเงินคงเหลือในบัญชี การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสนุกกับโลกของเกม PlayStation ได้อย่างคุ้มค่าและไร้กังวลครับ เติมเกม League of Legends