เติมเกม Nintendo Switch

ปลดล็อกความสนุกไร้ขีดจำกัด

หากคุณเป็นเจ้าของเครื่องเล่นเกมยอดนิยมอย่าง Nintendo Switch และยังไม่เคยลองเติมเกม หรือซื้อเกมแบบดิจิทัลเลย คุณอาจจะพลาดโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่สมบูรณ์แบบไปอย่างน่าเสียดาย เพราะการเติมเงินเข้าสู่ระบบของ Nintendo หรือที่เรียกกันว่า Nintendo eShop ไม่ใช่แค่การซื้อเกมใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่โลกแห่งความสนุกที่หลากหลายและไร้ขีดจำกัด บทความนี้จะเจาะลึกถึงเหตุผลว่าทำไมการ เติมเกม Nintendo Switch จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม

ทำไมการเติมเกม Nintendo Switch ถึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ Gamer

การเติมเงินสำหรับ Nintendo eShop ไม่ได้เป็นเพียงแค่การใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มอรรถรสและทางเลือกในการเล่นเกมของคุณให้กว้างขึ้น ซึ่งมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้:

1. เข้าถึงคลังเกมดิจิทัลขนาดใหญ่

เมื่อคุณเติมเงิน คุณจะสามารถซื้อเกมได้โดยตรงจาก Nintendo eShop ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Nintendo ที่มีเกมให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เกมดังระดับโลกไปจนถึงเกมอินดี้สุดสร้างสรรค์ คุณสามารถค้นหาเกมใหม่ๆ ที่น่าสนใจได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องรอการวางจำหน่ายแบบแผ่น หรือออกเดินทางไปตามร้านค้าให้เสียเวลา

2. ประหยัดเวลาและพื้นที่จัดเก็บ

การซื้อเกมแบบดิจิทัลจะช่วยลดความยุ่งยากในการจัดเก็บแผ่นเกมให้วุ่นวาย คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการทำแผ่นหายหรือแผ่นเป็นรอย และยังช่วยประหยัดพื้นที่ในบ้านอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถดาวน์โหลดและเล่นเกมได้ทันทีที่ซื้อ โดยไม่ต้องรอการจัดส่ง

3. โอกาสในการคว้าโปรโมชันและส่วนลดพิเศษ

Nintendo eShop มักจะมีการจัด โปรโมชันและส่วนลด สำหรับเกมต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่งส่วนลดเหล่านี้อาจสูงถึง 50-70% ทำให้คุณสามารถซื้อเกมที่อยากเล่นได้ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม การเติมเงินล่วงหน้าจะช่วยให้คุณพร้อมคว้าโอกาสดีๆ เหล่านี้ได้ทันทีเมื่อมีข้อเสนอที่น่าสนใจเข้ามา

4. สนับสนุนนักพัฒนาเกมอิสระ (Indie Game Developers)

Nintendo Switch เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนาเกมอิสระจำนวนมาก การซื้อเกมอินดี้แบบดิจิทัลไม่เพียงแค่เป็นการสนับสนุนให้พวกเขามีทุนในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ต่อไป แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับเกมที่มีแนวคิดแปลกใหม่และไม่เหมือนใคร ซึ่งอาจกลายเป็นเกมที่คุณชื่นชอบมากที่สุดก็ได้

5. ซื้อคอนเทนต์เพิ่มเติม (DLC) เพื่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ

หลายเกมในปัจจุบันมีการขาย DLC (Downloadable Content) หรือเนื้อหาเสริมเพื่อขยายเรื่องราว, เพิ่มตัวละคร, หรือเพิ่มภารกิจใหม่ๆ ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้มักจะมีเฉพาะในรูปแบบดิจิทัลเท่านั้น การเติมเงินจะทำให้คุณสามารถซื้อ DLC เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเล่นเกมของคุณให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และยังคงสนุกกับเกมโปรดได้นานขึ้นอีกด้วย

สรุป

การเติมเกม Nintendo Switch หรือการเติมเงินเพื่อใช้จ่ายใน Nintendo eShop ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ครบถ้วนและคุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงเกมใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว, การคว้าโอกาสจากโปรโมชันสุดคุ้ม, หรือการสนับสนุนเหล่านักพัฒนาเกม การเติมเงินสำหรับ Nintendo Switch จึงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้การเล่นเกมของคุณสนุกและไร้ขีดจำกัดมากยิ่งขึ้นอย่างแท้จริง

วิธีการเติมเกม Nintendo Switch ที่ Gamer ทุกคนควรรู้

การเล่นเกมบน Nintendo Switch จะสนุกยิ่งขึ้นเมื่อคุณสามารถเข้าถึงเกมใหม่ๆ หรือคอนเทนต์พิเศษต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้คุณทำเช่นนั้นได้คือ “การเติมเงิน” เพื่อใช้จ่ายใน Nintendo eShop ซึ่งเป็นร้านค้าดิจิทัลอย่างเป็นทางการของ Nintendo แม้ว่าวิธีการเติมเงินจะมีหลายช่องทาง แต่ละช่องทางก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับช่องทางการเติมเกม Nintendo Switch ที่ได้รับความนิยม เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด

รู้จักช่องทางการเติมเกม Nintendo Switch ยอดนิยม

ช่องทางการเติมเงินสำหรับ Nintendo Switch นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เล่นได้รับความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเพิ่มยอดเงินในบัญชีของคุณได้ทันที โดยช่องทางหลักๆ ที่เป็นที่นิยมมีดังนี้:

1. เติมด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต

นี่คือวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับผู้ที่มีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตอยู่แล้ว คุณสามารถผูกบัญชีบัตรเข้ากับ Nintendo eShop ได้โดยตรง เพียงแค่กรอกข้อมูลบัตรของคุณในระบบ เมื่อต้องการเติมเงินก็สามารถทำได้ทันที ไม่ต้องออกไปซื้อโค้ดเติมเงินที่ไหน

ข้อดี: สะดวก รวดเร็ว และสามารถเติมเงินได้ตามจำนวนที่ต้องการ ไม่ต้องซื้อเป็นแพ็กเกจ

ข้อเสีย: อาจมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบัตร แม้ว่าระบบจะมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

2. ซื้อ Nintendo eShop Gift Card หรือบัตรเติมเงิน

Gift Card หรือบัตรเติมเงินเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูง คุณสามารถหาซื้อบัตรเติมเงินเหล่านี้ได้จากหลากหลายช่องทาง เช่น ร้านค้าออนไลน์ (Lazada, Shopee), ร้านค้าปลีกชั้นนำอย่าง 7-Eleven, หรือร้านเกมทั่วไป โดยบัตรเติมเงินมักจะมีมูลค่าที่กำหนดไว้ เช่น 1,000 เยน, 3,000 เยน, 5,000 เยน เป็นต้น

ข้อดี: ปลอดภัยสูง ไม่ต้องผูกบัญชีบัตรเครดิต, เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย, สามารถใช้เป็นของขวัญได้

ข้อเสีย: ต้องซื้อตามมูลค่าที่กำหนดไว้เท่านั้น หากต้องการเติมจำนวนอื่นอาจไม่สะดวก

3. ใช้ PayPal เป็นช่องทางการชำระเงิน

สำหรับผู้ที่ใช้งาน PayPal อยู่แล้ว การเชื่อมต่อบัญชี PayPal กับ Nintendo eShop เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถใช้จ่ายเงินใน Nintendo eShop ได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลบัตรเครดิตโดยตรง ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว

ข้อดี: ปลอดภัยสูง, สามารถใช้ยอดเงินคงเหลือใน PayPal ได้, ไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตซ้ำ

ข้อเสีย: ต้องมีบัญชี PayPal และมีการยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว

4. บริการเติมเงินผ่านผู้ให้บริการภายนอก

นอกจากช่องทางหลักแล้ว ยังมีผู้ให้บริการเติมเงินบางรายที่สามารถเติมเงินเข้าสู่บัญชี Nintendo Switch ของคุณได้โดยตรงผ่านการโอนเงิน หรือช่องทางชำระเงินอื่นๆ ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิตหรือบัตรเติมเงิน

ข้อดี: มีช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย, อาจมีโปรโมชันพิเศษ

ข้อเสีย: ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการให้ดีก่อนใช้งาน

สรุป

ไม่ว่าคุณจะเลือกเติมเกม Nintendo Switch ด้วยวิธีใด สิ่งสำคัญคือการเลือกช่องทางที่คุณรู้สึกสะดวกและปลอดภัยที่สุด การเติมเงินผ่านบัตรเครดิตเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วและยืดหยุ่น ส่วนการใช้ Gift Card เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมงบประมาณและเพิ่มความปลอดภัย ขณะที่ PayPal ก็เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในเรื่องข้อมูลส่วนตัว การทำความเข้าใจช่องทางเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงโลกของเกมบน Nintendo Switch ได้อย่างราบรื่นและเต็มที่มากยิ่งขึ้น

วิธีเติมเกม Nintendo Switch ด้วยบัตรเติมเงิน (eShop Card) อย่างละเอียด

การเติมเกม Nintendo Switch ด้วยบัตรเติมเงิน หรือ Nintendo eShop Card เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เกมเมอร์ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิตหรือต้องการควบคุมงบประมาณในการใช้จ่าย บัตรเติมเงินเหล่านี้มีรหัสสำหรับแลก (Redeem Code) ที่สามารถนำไปเติมเงินในบัญชี Nintendo ของคุณได้ทันที บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการเติมเกมอย่างละเอียดทีละขั้นตอน เพื่อให้คุณสามารถทำตามได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดข้อผิดพลาด

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมบัตรเติมเงิน (eShop Card)

สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือบัตรเติมเงิน ซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้จากแหล่งต่างๆ เช่น

ร้านสะดวกซื้อ: ร้าน 7-Eleven, Family Mart

ร้านค้าปลีก: ร้านค้าเกม, ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ร้านค้าออนไลน์: Shopee, Lazada หรือเว็บไซต์ที่ขายโค้ดเกมโดยเฉพาะ

บัตรเหล่านี้จะมีมูลค่าเป็นสกุลเงินเยน (สำหรับบัญชีญี่ปุ่น) หรือดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับบัญชีอเมริกา) โดยหน้าบัตรจะมีรหัส Redeem Code อยู่ภายใน หรือหากซื้อแบบดิจิทัลจะได้รับรหัสทางอีเมล

ขั้นตอนที่ 2: เข้าสู่ Nintendo eShop บนเครื่อง Switch

เปิดเครื่อง Nintendo Switch ของคุณและเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:

เลือกไอคอน Nintendo eShop จากหน้า Home ของเครื่อง Switch

เลือกไอคอนผู้ใช้ (รูปคน) ที่คุณต้องการเติมเงิน

ใส่รหัสผ่านหากมีการตั้งค่าไว้

ขั้นตอนที่ 3: เลือกเมนู “Enter Code”

เมื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Nintendo eShop แล้ว ให้มองหาเมนูทางด้านซ้ายมือ แล้วเลือกเมนูที่ชื่อว่า “Enter Code” หรือ “ใส่รหัส”

ขั้นตอนที่ 4: ใส่รหัส Redeem Code

ในช่องว่างที่ปรากฏขึ้น ให้คุณกรอกรหัส Redeem Code 16 หลักที่อยู่บนบัตรเติมเงินของคุณให้ถูกต้อง จากนั้นกด “OK”

ข้อควรระวัง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกรอกตัวอักษรและตัวเลขทั้งหมดอย่างถูกต้อง รวมถึงเครื่องหมายขีดคั่น (-) ด้วย

ขั้นตอนที่ 5: ยืนยันการเติมเงิน

หลังจากที่คุณกรอกรหัสเสร็จแล้ว ระบบจะแสดงมูลค่าของเงินที่คุณจะได้รับ และขอให้คุณยืนยันการเติมเงินอีกครั้ง หากข้อมูลถูกต้องให้กด “Confirm” หรือ “ยืนยัน”

ขั้นตอนที่ 6: การเติมเงินเสร็จสมบูรณ์

หากการเติมเงินสำเร็จ ระบบจะแสดงข้อความยืนยันและยอดเงินในบัญชีของคุณจะถูกเพิ่มขึ้นทันที เท่านี้คุณก็พร้อมที่จะซื้อเกมใหม่ๆ หรือคอนเทนต์ที่คุณต้องการได้แล้ว

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

เรื่องโซนบัญชี: หากบัญชี Nintendo ของคุณเป็นโซนอเมริกา คุณจะต้องใช้บัตรเติมเงินโซนอเมริกาเท่านั้น และหากบัญชีของคุณเป็นโซนญี่ปุ่น คุณจะต้องใช้บัตรเติมเงินโซนญี่ปุ่น

การแปลงสกุลเงิน: หากบัญชีของคุณเป็นโซนอื่นที่ไม่ตรงกับบัตรเติมเงิน คุณจะต้องเปลี่ยนโซนบัญชีของคุณในเว็บไซต์ของ Nintendo ก่อน แต่การเปลี่ยนโซนอาจมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดิมอาจหายไป

การเติมเงินด้วย eShop Card เป็นวิธีที่ง่ายและเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัยในการซื้อเกมดิจิทัลบน Nintendo Switch เพียงแค่คุณทำตามขั้นตอนข้างต้นอย่างรอบคอบ คุณก็สามารถปลดล็อกความสนุกใหม่ๆ ได้อย่างไม่มีสะดุด

การเติมเกม Nintendo Switch: เปรียบเทียบข้อดีและข้อควรระวังของแต่ละช่องทาง

การเติมเงินเพื่อซื้อเกมและคอนเทนต์ต่างๆ บน Nintendo eShop เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเกมเมอร์ทุกคน แต่การเลือกช่องทางที่เหมาะสมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อควรระวังที่แตกต่างกันไป การทำความเข้าใจในเรื่องนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกช่องทางที่ปลอดภัยและตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างดีที่สุด

ข้อดีและข้อควรระวังในการเติมเกม Nintendo Switch ผ่านแต่ละช่องทาง

ในปัจจุบันมีช่องทางการเติมเงินหลักๆ ที่ได้รับความนิยมอยู่ 3 ช่องทาง ได้แก่ การใช้บัตรเครดิต/เดบิต, การใช้ Nintendo eShop Card และการใช้ PayPal ซึ่งแต่ละวิธีมีรายละเอียดที่ควรทราบดังนี้:

1. การเติมเงินด้วยบัตรเครดิต / บัตรเดบิต

ข้อดี:

ความสะดวกและรวดเร็ว: คุณสามารถเติมเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านค้า เพียงแค่กรอกข้อมูลบัตรและจำนวนเงินที่ต้องการ

ความยืดหยุ่น: สามารถเติมเงินได้ตามจำนวนที่ต้องการ ไม่ต้องซื้อเป็นแพ็กเกจที่มีมูลค่าตายตัว

ข้อควรระวัง:

ความปลอดภัยของข้อมูล: แม้ระบบจะมีความปลอดภัยสูง แต่การกรอกข้อมูลบัตรโดยตรงอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ

การควบคุมค่าใช้จ่าย: อาจทำให้ใช้จ่ายเกินงบประมาณได้ง่าย เนื่องจากไม่มีการจำกัดวงเงินเหมือนกับการซื้อบัตรเติมเงิน

2. การเติมเงินด้วยบัตร Nintendo eShop Card

ข้อดี:

ความปลอดภัยสูง: คุณไม่จำเป็นต้องผูกบัญชีบัตรเครดิตเข้ากับระบบ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ควบคุมงบประมาณได้: บัตรเติมเงินมีมูลค่าตายตัว ทำให้คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการซื้อเกมได้ดี

เหมาะเป็นของขวัญ: สามารถซื้อเป็นของขวัญให้กับเพื่อนหรือครอบครัวที่ใช้เครื่อง Nintendo Switch ได้

ข้อควรระวัง:

ความยืดหยุ่นน้อย: คุณต้องซื้อบัตรตามมูลค่าที่กำหนดไว้เท่านั้น หากต้องการยอดเงินที่แตกต่างไปจากนั้นอาจไม่สะดวก

ต้องซื้อจากร้านค้า: ต้องออกไปซื้อบัตรตามร้านค้าหรือซื้อจากช่องทางออนไลน์ ซึ่งอาจไม่สะดวกเท่าการเติมเงินผ่านบัตรเครดิตโดยตรง

3. การเติมเงินด้วยบัญชี PayPal

ข้อดี:

เพิ่มความปลอดภัย: PayPal ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการชำระเงิน ทำให้คุณไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลบัตรเครดิตของคุณโดยตรงกับ Nintendo

ใช้ได้ทั่วโลก: หากคุณเดินทางไปต่างประเทศและต้องการเติมเงินในบัญชีที่ผูกกับ PayPal คุณยังสามารถทำได้ง่ายๆ

ข้อควรระวัง:

ต้องมีบัญชี PayPal: ผู้ใช้ต้องมีบัญชี PayPal ที่มีการยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว

ขั้นตอนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย: การเชื่อมต่อและยืนยันการชำระเงินอาจใช้เวลาและขั้นตอนมากกว่าการใช้บัตรเครดิตโดยตรงเล็กน้อย

สรุป

การเลือกช่องทางการเติมเงินบน Nintendo Switch ขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ หากคุณให้ความสำคัญกับความสะดวกและรวดเร็ว การใช้บัตรเครดิต คือคำตอบ แต่หากคุณเน้นความปลอดภัยและต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย การใช้ eShop Card หรือ PayPal ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม การเข้าใจข้อดีและข้อควรระวังของแต่ละช่องทางจะช่วยให้การเติมเงินของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ปลดล็อกความคุ้มค่า: เทคนิคประหยัดเงินในการเติมเกม Nintendo Switch ที่คุณควรรู้

การเล่นเกมบน Nintendo Switch เป็นความสุขของใครหลายคน แต่บางครั้งค่าใช้จ่ายในการซื้อเกมก็อาจทำให้กระเป๋าสตางค์สั่นได้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากสนุกกับเกมใหม่ๆ โดยไม่ต้องใช้เงินจนเกินงบประมาณ บทความนี้จะมาเผยเทคนิคเด็ดๆ ในการประหยัดเงินเมื่อคุณต้องการเติมเกม Nintendo Switch ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถสร้างคลังเกมในฝันได้โดยไม่ต้องจ่ายแพงอย่างที่คิด

เทคนิคประหยัดเงินในการเติมเกม Nintendo Switch ที่คุณควรรู้

การประหยัดเงินไม่ได้หมายถึงการหลีกเลี่ยงการใช้จ่าย แต่เป็นการใช้จ่ายอย่างฉลาดเพื่อให้ได้ความคุ้มค่าสูงสุด ซึ่งเทคนิคต่างๆ มีดังนี้:

1. จับตาดูโปรโมชันและส่วนลดใน Nintendo eShop

นี่คือวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุด Nintendo eShop มักจะจัดโปรโมชันลดราคาเกมอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดรายสัปดาห์, ส่วนลดตามเทศกาล (เช่น Black Friday, ปีใหม่) หรือลดราคาพิเศษสำหรับเกมเก่าที่ยังคงความสนุก คุณควรเช็ค Nintendo eShop เป็นประจำ หรือติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์และเพจที่รวบรวมข้อมูลโปรโมชันโดยเฉพาะ

2. ซื้อ Nintendo eShop Gift Card ในช่วงโปรโมชัน

บัตรเติมเงิน (Gift Card) ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการประหยัดเงิน เพราะบางครั้งร้านค้าออนไลน์หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ จะมีโปรโมชันสำหรับบัตรเติมเงินเหล่านี้ เช่น “ซื้อ 3,000 เยน แถม 300 เยน” หรือส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อบัตรในราคาที่กำหนด การซื้อบัตรเติมเงินในช่วงโปรโมชันแล้วนำมาเก็บไว้จะช่วยให้คุณได้เงินใน eShop เพิ่มขึ้นโดยจ่ายเท่าเดิม

3. ใช้ประโยชน์จาก Nintendo Gold Points

เมื่อคุณซื้อเกมแบบดิจิทัลหรือแผ่นเกมบางเกมจาก Nintendo คุณจะได้รับ Nintendo Gold Points สะสม ซึ่งคะแนนเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดในการซื้อเกมครั้งต่อไปได้ ดังนั้น ทุกครั้งที่คุณซื้อเกม อย่าลืมตรวจสอบว่าคุณได้รับคะแนนสะสมหรือไม่ และนำคะแนนเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

4. พิจารณาเกมอินดี้ (Indie Games) ที่มีราคาถูกแต่คุณภาพดี

อย่ามองข้ามเกมอินดี้! Nintendo Switch เป็นแพลตฟอร์มที่มีเกมอินดี้คุณภาพสูงมากมาย ซึ่งหลายเกมมีราคาถูกกว่าเกมฟอร์มยักษ์อย่างมาก แต่ยังคงมอบประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมและเนื้อหาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน การลองเปิดใจให้กับเกมอินดี้จะช่วยให้คุณได้ค้นพบเกมดีๆ ในราคาที่คุ้มค่า เติมเกมมือถือไม่ใช้บัตรเครดิต

5. วางแผนการซื้อล่วงหน้าและอดใจรอ

หากคุณอยากได้เกมใหม่ที่กำลังจะวางขาย ลองอดใจรอสักพัก เพราะส่วนใหญ่เกมเหล่านั้นมักจะลดราคาหลังวางจำหน่ายไปแล้ว 2-3 เดือน หรือในช่วงเทศกาลสำคัญ การวางแผนการซื้อล่วงหน้าและรอจังหวะที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณประหยัดเงินไปได้มากทีเดียว เติมเกมด้วยทรูมันนี่วอเลท

สรุป

การเติมเกม Nintendo Switch ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องสิ้นเปลืองเสมอไป ด้วยเทคนิคเหล่านี้ คุณสามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้ได้เกมที่ต้องการในราคาที่ดีที่สุด และยังคงสนุกกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณอีกต่อไป เติมเกมออนไลน์ราคาถูก